เฟเดริโก้ เปญ่า เอเยนต์ของ เอนดริค ว่าที่สตาร์คนใหม่ของ เรอัล มาดริด ออกมาเผยว่า เชลซี เคยเป็นตัวเต็งที่จะคว้าตัวแข้งดาวรุ่งรายนี้ไปร่วมทีมก่อนที่ “ราชันชุดขาว” จะกระโจนเข้ามาร่วมวงและคว้าตัวเขาไปได้ในท้ายที่สุด

เอนดริค จะย้ายจาก พัลไมรัส มาร่วมทีม เรอัล มาดริด ในเดือน กรกฎาคม นี้ด้วยค่าตัว 51 ล้านปอนด์ ภายหลังสามารถปิดดีลได้ตั้งแต่ในเดือน ธันวาคม 2022

ขณะที่ทางเอเยนต์ของเขาออกมาเผยว่าแข้งเด็กในความดูแลของเขานั้นได้รับความสนใจจากบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปหลังโชว์ฟอร์มฉายแววออกมาในรายการ มงต์แตกู ซึ่งเขาพาทีมชาติ บราซิล ชุด U17 คว้าแชมป์ได้ในปี 2022

“ผมคิดว่าครั้งแรกที่เราได้เห็น เอนดริค คือการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ U13 ของ พัลไมรัส” เปญ่า กล่าวกับ Telegraph

“เขาโดดเด่นอย่างมากแม้กระทั่งในวีดิโอว่าเขาเป็นหนึ่งในเด็กที่มีศักยภาพอย่างมากในรุ่นราวคราวเดียวกัน”

“เขาคือนักเตะที่จะได้ลงเล่นฟุตบอลโลกถึงสี่ครั้งหรือมากกว่านั้น คือเด็กที่สามารถก้าวไปคว้าบัลลงดอร์ นั่นแหละศักยภาพที่เขามีและมีนักเตะไม่มากหรอกนะที่จะทำได้เหมือนเขา”

“ในการแข่งครั้งในทำให้โลกได้เริ่มรู้จักเขาและได้รับการพูดถึง ผู้คนในโลกฟุตบอลได้รู้เกี่ยวกับเขา และตอนนั้นเองที่สโมสรระดับท็อปตบเท้าเข้ามา แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เชลซี และแน่นอน เรอัล มาดริด”

“ทุกอย่างที่พ่อของเขาต้องการสำหรับเขาเพื่อให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพและเล่นให้กับ เรอัล มาดริด นี่เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเขาเลย”

เปญ่า ยังเผยว่า เชลซี ได้พยายามโน้มน้าวว่าที่ดาวจรัสแสงของวงการลูกหนังรายนี้และครอบครัวอย่างสุดความสามารถก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด

“ผมคิดว่า เรอัล ตัดสินใจแล้วว่าพวกเขาจะพลาดตัวเด็กพรสวรรค์สูงอย่าง วินี่ หรือ เอนดริค อีกไม่ได้หลังเคส เนย์มาร์ ที่ย้ายไป บาร์เซโลน่า” เปญ่า กล่าว “บางทีนี่อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญให้กับ เชลซี เพราะว่าในตอนแรกพวกเขาอยู่แถวหน้าสุดในการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม”

“ครอบครัวของเขาเดินทางไปเยี่ยม ค็อบแฮม และประทับใจอย่างมาก แต่ เชลซี กังวลเรื่องค่าตัวของเขา และเมื่อ เรอัล เข้ามาและเตรียมพร้อมที่จะจ่ายในราคาที่ พัลไมรัส ต้องการ ทุกอย่างก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาแล้ว”